โรคไซนัสอักเสบ (Sinusitis) หรือที่รู้จักกันทั่วไปว่า "โรคอักเสบของโพรงจมูก" เป็นปัญหาสุขภาพที่พบได้บ่อยในปัจจุบัน โดยเฉพาะในช่วงที่อากาศเปลี่ยนแปลงบ่อย หรือในบริเวณที่มีฝุ่นละอองและมลพิษในอากาศสูง โรคนี้เกิดขึ้นจากการอักเสบของเยื่อบุโพรงจมูกและไซนัส ซึ่งเป็นช่องว่างเล็กๆ ภายในจมูกที่เชื่อมต่อกับระบบทางเดินหายใจ
สาเหตุของไซนัสอักเสบ
- การติดเชื้อไวรัสหรือแบคทีเรีย
สาเหตุหลักของไซนัสอักเสบคือการติดเชื้อไวรัสหรือแบคทีเรียในระบบทางเดินหายใจส่วนบน เช่น โรคหวัด หรือไข้หวัดใหญ่ การติดเชื้อเหล่านี้มักเป็นตัวกระตุ้นให้เกิดการบวมและอักเสบของเยื่อบุโพรงจมูกและไซนัส จนเกิดการอุดตันและเป็นแหล่งสะสมของเชื้อโรค หากไม่รักษาให้ดีอาจกลายเป็นไซนัสอักเสบเรื้อรังได้
- การสัมผัสมลพิษทางอากาศ
การสูดดมสารเคมีที่ระคายเคือง เช่น ฝุ่นละออง PM 2.5 ควันบุหรี่ ควันจากยานพาหนะ หรือมลพิษทางอากาศอื่นๆ ทำให้เยื่อบุจมูกระคายเคืองและเกิดการอักเสบในโพรงไซนัส การสัมผัสมลภาวะบ่อยๆ เพิ่มความเสี่ยงที่จะเกิดไซนัสอักเสบเรื้อรัง
- โรคภูมิแพ้
คนที่เป็นโรคภูมิแพ้ หรือผู้ที่มีอาการแพ้ต่างๆ เช่น แพ้ฝุ่น ละอองเกสรดอกไม้ หรือสารก่อภูมิแพ้จากสัตว์ มีโอกาสสูงที่จะพัฒนาเป็นไซนัสอักเสบได้ง่ายขึ้น เพราะการอักเสบที่เกิดจากภูมิแพ้ทำให้เยื่อบุจมูกบวมและทำให้การระบายของเหลวในโพรงไซนัสได้ไม่ดี ทำให้เกิดการอุดตันของโพรงไ
- โครงสร้างจมูกผิดปกติ
ผู้ที่มีสภาพโพรงจมูกที่มีการอุดตันจากติ่งเนื้อ หรือการเบี่ยงเบนของกระดูกกั้นจมูก ซึ่งทำให้โพรงจมูกตีบและระบายอากาศไม่สะดวก อาจมีปัญหาในการระบายของเหลวในโพรงไซนัส ทำให้เกิดการสะสมและติดเชื้อได้ง่าย ซึ่งหากไม่ได้รับการรักษา จะเสี่ยงต่อการเกิดไซนัสอักเสบเรื้อรัง
- การเปลี่ยนแปลงสภาพแวดล้อมและอากาศ
การเปลี่ยนแปลงของอุณหภูมิหรือความชื้นอย่างรวดเร็ว เช่น จากอากาศร้อนเข้าสู่ที่เย็นจัด อาจทำให้เยื่อบุจมูกบวมและเกิดการอักเสบได้ รวมถึงในช่วงฤดูฝนหรือหน้าหนาวที่อากาศ
- การใช้ยาสเปรย์จมูกอย่างต่อเนื่อง
การใช้สเปรย์จมูกลดอาการคัดจมูกบ่อยครั้ง หรือใช้ติดต่อกันนานเกินไป อาจทำให้เยื่อบุโพรงจมูกระคายเคืองและเกิดการอักเสบขึ้นได้ เป็นผลให้เกิดไซนัสอักเสบเรื้อรังตามมา
อาการของไซนัสอักเสบมีหลากหลาย ตั้งแต่ความรู้สึกไม่สบายบริเวณใบหน้า ไปจนถึงอาการปวดหัวรุนแรง ซึ่งมักจะเป็นในบริเวณหน้าผาก รอบดวงตา และโหนกแก้ม อาการที่พบบ่อยได้แก่
- อาการปวดและตึงในบริเวณใบหน้า
อาการปวดและตึงมักเกิดในบริเวณรอบๆ โพรงไซนัส เช่น บริเวณรอบดวงตา หน้าผาก หรือแก้ม ความรู้สึกปวดอาจทวีความรุนแรงขึ้นเมื่อก้มศีรษะหรือเปลี่ยนท่าทาง ซึ่งเป็นผลมาจากการกดดันในโพรงไซนัสเนื่องจากการสะสมของน้ำมูกและหนองที่เกิดจากการอักเสบ
- มีน้ำมูกไหลออกมามีสีเขียวหรือเหลืองข้น
น้ำมูกที่มีสีเขียวหรือเหลืองข้นเป็นสัญญาณที่ชัดเจนของการติดเชื้อในไซนัส สารคัดหลั่งนี้เป็นผลมาจากการต่อสู้ของร่างกายกับแบคทีเรียหรือไวรัสที่ทำให้เกิดการอักเสบ และน้ำมูกที่หนืดอาจทำให้เกิดการอุดตันของโพรงไซนัส เพิ่มความดันในบริเวณจมูกและใบหน้า
- การรับกลิ่นที่ลดลง
เมื่อไซนัสอักเสบทำให้โพรงจมูกถูกอุดตันด้วยน้ำมูกหรือหนอง การรับกลิ่นจะลดลงเนื่องจากความสามารถในการสัมผัสกับกลิ่นของเส้นประสาทรับกลิ่นถูกขัดขวาง นอกจากนี้การอักเสบที่เกิดขึ้นยังสามารถทำให้เนื้อเยื่อในโพรงจมูกบวมขึ้น ซึ่งส่งผลกระทบต่อการรับกลิ่นได้เช่นกัน
- อาการเจ็บคอ ไอเรื้อรัง โดยเฉพาะในช่วงกลางคืน
ไซนัสอักเสบอาจทำให้มีน้ำมูกไหลลงคอ ทำให้เกิดการระคายเคืองในลำคอ อาการไอเรื้อรังมักเป็นที่สังเกตได้ชัดเจนในช่วงกลางคืนเมื่อร่างกายอยู่ในท่านอน ทำให้น้ำมูกไหลลงสู่ลำคอได้มากขึ้น บางครั้งอาจทำให้ตื่นขึ้นมาด้วยความรู้สึกเจ็บคอและต้องไอตลอดเวลา
- ลมหายใจมีกลิ่นไม่พึงประสงค์
การสะสมของแบคทีเรียในโพรงไซนัสและน้ำมูกที่ข้นเหนียวสามารถทำให้ลมหายใจมีกลิ่นไม่พึงประสงค์ หรือเรียกว่า "halitosis" นอกจากนี้ หนองและของเสียจากแบคทีเรียในจมูกและลำคอยังสามารถสร้างกลิ่นที่ไม่ดีได้เมื่อหายใจออก
- อาจมีไข้เล็กน้อยร่วมกับอาการอ่อนเพลีย
ไข้เล็กน้อยเป็นสัญญาณของการติดเชื้อในร่างกาย แม้ว่าในบางกรณีจะไม่มีไข้สูง แต่ผู้ป่วยอาจรู้สึกอ่อนเพลียและเหนื่อยง่ายเนื่องจากร่างกายกำลังต่อสู้กับการติดเชื้อ การพักผ่อนและดื่มน้ำให้เพียงพอจึงเป็นสิ่งสำคัญเพื่อช่วยให้ร่างกายฟื้นตัว
โรคไซนัสอักเสบเป็นปัญหาสุขภาพที่มีผลกระทบต่อการใช้ชีวิตประจำวัน แต่สามารถป้องกันและรักษาได้หากเราให้ความสำคัญกับสุขภาพและหลีกเลี่ยงปัจจัยเสี่ยงต่าง ๆ
- รักษาความสะอาดของจมูก
การล้างจมูกด้วยน้ำเกลือช่วยลดการอุดตันของเมือกในโพรงจมูก และลดโอกาสของการติดเชื้อ
- หลีกเลี่ยงสิ่งกระตุ้น
หลีกเลี่ยงการสัมผัสฝุ่นละออง มลพิษ และสารก่อภูมิแพ้ต่าง ๆ ซึ่งเป็นตัวกระตุ้นการอักเสบของโพรงจมูก
- การใช้ยาลดอาการอักเสบ
ยาต้านการอักเสบหรือยาแก้แพ้ชนิดต่างๆ สามารถช่วยลดการอักเสบของเยื่อบุโพรงจมูกและลดน้ำมูก
- การใช้ยาปฏิชีวนะ
ในกรณีที่การอักเสบเกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรีย แพทย์อาจให้ยาปฏิชีวนะเพื่อลดการอักเสบ
- พักผ่อนและดื่มน้ำมากๆ
การพักผ่อนและการดื่มน้ำมาก ๆ จะช่วยทำให้เมือกที่ติดอยู่ในโพรงจมูกละลายและขับออกได้ง่ายขึ้น ดูน้อยลง
©picassos 2022
เว็บไซต์นี้เป็นของนักธุรกิจผู้จัดจำหน่าย มิใช่เว็บไซต์ของ บริษัท พีคัสโซ (ประเทศไทย) จำกัด