หลายคนอาจเคยได้ยิน "โรคเบาหวาน" (Diabetes Mellitus) และ "โรคเบาจืด" (Diabetes Insipidus) แล้วคิดว่ามันคล้ายกันเพราะมีคำว่า "เบา" อยู่ด้วยกัน แต่ที่จริงแล้ว ทั้งสองโรคนี้มีสาเหตุและผลกระทบที่แตกต่างกันมาก! มาดูกันว่าอะไรเป็นตัวการที่ทำให้เกิดแต่ละโรคกันแน่!
โรคเบาหวาน vs โรคเบาจืด: เหมือนหรือต่างกัน..?
หลายคนอาจเคยได้ยินชื่อ "เบาหวาน" และ "เบาจืด" แล้วคิดว่าเป็นโรคเดียวกันเพราะมีคำว่า "เบา" เหมือนกัน แต่จริง ๆ แล้วทั้งสองโรคนี้แตกต่างกันโดยสิ้นเชิง!
ความหมาย
- โรคเบาหวาน (Diabetes Mellitus) ภัยเงียบของน้ำตาลในเลือด
โรคเบาหวาน เป็นโรคเรื้อรังที่เกิดจากระดับน้ำตาลในเลือดสูงผิดปกติ เนื่องจากร่างกายมีปัญหาในการผลิตหรือใช้งานอินซูลิน ซึ่งเป็นฮอร์โมนที่ช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด
- โรคเบาจืด (Diabetes Insipidus) น้ำเยอะแต่ยังขาดน้ำ
โรคเบาจืด เป็นโรคที่เกิดจากความผิดปกติของฮอร์โมนแวโซเพรสซิน (Vasopressin) หรือที่เรียกว่า Antidiuretic Hormone (ADH) ซึ่งควบคุมการดูดกลับของน้ำในไต ทำให้ร่างกายสูญเสียน้ำในปริมาณมาก ส่งผลให้ปัสสาวะออกมามากและเจือจางคล้ายน้ำเปล่า
ประเภทของโรคเบาหวาน
โรคเบาหวานแบ่งออกเป็น 4 ประเภทหลัก ได้แก่
- โรคเบาหวานชนิดที่ 1 (Type 1 Diabetes)
- เกิดจากระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย ทำลายเซลล์เบตาในตับอ่อนที่ผลิตอินซูลิน
- ทำให้ร่างกายขาดอินซูลินอย่างสมบูรณ์
- มักพบในเด็กหรือวัยรุ่น
- ต้องฉีดอินซูลินตลอดชีวิต
- โรคเบาหวานชนิดที่ 2 (Type 2 Diabetes)
- เกิดจากภาวะดื้อต่ออินซูลิน (Insulin Resistance) หรือร่างกายผลิตอินซูลินได้ไม่เพียงพอ
- พบมากที่สุดในผู้สูงอายุหรือผู้ที่มีพฤติกรรมเสี่ยง เช่น อ้วน ไม่ออกกำลังกาย
- สามารถควบคุมได้ด้วยการปรับพฤติกรรมและยา
- โรคเบาหวานขณะตั้งครรภ์ (Gestational Diabetes)
- เกิดในหญิงตั้งครรภ์ เนื่องจากฮอร์โมนจากรกมีผลต่อการทำงานของอินซูลิน
- ส่วนใหญ่มักหายไปหลังคลอด แต่เสี่ยงเป็นเบาหวานชนิดที่ 2 ในอนาคต
- โรคเบาหวานจากสาเหตุอื่นๆ
เกิดจากโรคทางพันธุกรรม โรคตับอ่อน หรือการใช้ยาบางชนิด
อาการของโรคเบาหวาน
- ปัสสาวะบ่อยและปริมาณมาก
- กระหายน้ำผิดปกติ
- หิวบ่อย กินมากแต่น้ำหนักลด
- อ่อนเพลีย เหนื่อยง่าย
- แผลหายช้า
- ชาปลายมือปลายเท้า
ประเภทของโรคเบาจืด
- โรคเบาจืดจากสมอง (Central Diabetes Insipidus)
- เกิดจากความผิดปกติของต่อมใต้สมอง (Hypothalamus) หรือ ต่อมใต้สมองส่วนหลัง (Posterior Pituitary) ทำให้ผลิตฮอร์โมน ADH ได้น้อย
- อาจเกิดจากพันธุกรรม การบาดเจ็บที่สมอง การติดเชื้อ หรือเนื้องอก
- โรคเบาจืดจากไต (Nephrogenic Diabetes Insipidus)
- เกิดจากไตตอบสนองต่อฮอร์โมน ADH ได้ไม่ดี
- อาจเกิดจากพันธุกรรม โรคไตเรื้อรัง หรือผลข้างเคียงจากยา
- โรคเบาจืดขณะตั้งครรภ์ (Gestational Diabetes Insipidus)
- เกิดจากเอนไซม์ที่รกผลิตขึ้นไปทำลาย ADH ในร่างกายแม่
- โรคเบาจืดที่เกี่ยวข้องกับกลไกกระหายน้ำ (Dipsogenic Diabetes Insipidus)
- เกิดจากความผิดปกติของศูนย์ควบคุมความกระหายน้ำในสมอง ทำให้ดื่มน้ำมากเกินไป
อาการของโรคเบาจืด
- ปัสสาวะบ่อยและปริมาณมากผิดปกติ (มากกว่า 3-20 ลิตรต่อวัน)
- ปัสสาวะใส ไม่มีสี ไม่มีกลิ่น
- กระหายน้ำตลอดเวลา
- อ่อนเพลีย ขาดน้ำ ผิวแห้ง ปากแห้ง
- อาจมีภาวะโซเดียมในเลือดสูง ทำให้สับสนหรือชักได้