แม้มะเร็งจะเป็นหนึ่งในโรคร้ายที่คร่าชีวิตผู้คนทั่วโลก แต่ในธรรมชาติกลับซ่อนพลังมหัศจรรย์ไว้ในเมล็ดเล็กๆ อย่าง “งาดำ” ที่หลายคนอาจมองข้าม งานวิจัยมากมายชี้ให้เห็นว่าสารเซซามิน (Sesamin) ที่พบในงาดำนั้น ไม่เพียงแต่มีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระเท่านั้น แต่ยังแสดงศักยภาพในการยับยั้งการเจริญเติบโตของเซลล์มะเร็งได้อย่างน่าทึ่ง บทความนี้จะพาคุณไปรู้จักกับกลไกการทำงานของสารเซซามิน ว่ามีบทบาทอย่างไรในการช่วยป้องกัน และต่อสู้กับโรคร้ายแรงนี้ได้อย่างเป็นธรรมชาติและน่าทึ่งเพียงใด
มะเร็งไม่ใช่แค่ก้อนเนื้อที่โตผิดปกติ แต่คือ "โรคของพันธุกรรมระดับเซลล์" ซึ่งเกิดจาก การกลายพันธุ์ของดีเอ็นเอ ทำให้เซลล์ปกติสูญเสียการควบคุมตนเอง และหลีกเลี่ยงระบบกำจัดของร่างกายได้
สิ่งที่นักวิทยาศาสตร์พยายามทำ คือ “หาสารที่สามารถควบคุมหรือลดกิจกรรมที่ผิดปกติเหล่านี้ได้” ซึ่งเซซามินถูกจับตามองมากในช่วง 10-15 ปีที่ผ่านมา เพราะ
- ไม่ใช่สารเคมีสังเคราะห์
- พบในธรรมชาติ (งาดำ)
- มีความปลอดภัยสูง
- ออกฤทธิ์กับหลายกลไกของเซลล์มะเร็งพร้อมกัน
เซซามินทำสารมารถจัดการกับเซลล์มะเร็งได้อย่างไร..?
- เซซามินยับยั้งการแบ่งตัวของเซลล์มะเร็ง (Anti-Proliferation)
เซลล์มะเร็งจะเติบโตเร็วมากเพราะมีการกระตุ้นจาก “โปรตีนเร่งการเจริญเติบโตของเซลล์” หรือที่เรียกว่า Growth Factors เช่น VEGF, EGFR ฯลฯ
เซซามินจะช่วยลดการทำงานของโปรตีนเหล่านี้ ทำให้วงจรชีวิตของเซลล์มะเร็งถูกชะลอ การแบ่งตัวจึงลดลง จากงานวิจัยหลายชิ้นพบว่า ในมะเร็งบางชนิด เช่น มะเร็งเต้านม มะเร็งตับ และมะเร็งลำไส้ใหญ่ เซซามินสามารถลดการเจริญเติบโตของเซลล์มะเร็งได้อย่างชัดเจนในหลอดทดลอง
- กระตุ้นการทำลายตัวเองของเซลล์มะเร็ง (Apoptosis)
ในร่างกายคนเรา เซลล์ปกติจะมี "ระบบทำลายตัวเอง" เมื่อเกิดความเสียหายมากเกินแก้ เรียกว่า Apoptosis แต่เซลล์มะเร็งกลับ “ปิด” กลไกนี้ ทำให้มันอยู่รอดและแพร่กระจายได้
เซซามินมีคุณสมบัติในการ “เปิด” กลไก Apoptosis นี้อีกครั้ง โดยการกระตุ้นเอนไซม์บางชนิด เช่น Caspase-3, Caspase-9 ซึ่งทำหน้าที่ “สั่งทำลายเซลล์” ผลคือ เซลล์มะเร็งที่เสียหายจะถูกกำจัดออกจากร่างกาย โดยไม่รบกวนเซลล์ดีอื่น ๆ มากนัก
- ต้านการสร้างเส้นเลือดใหม่ (Anti-Angiogenesis)
เมื่อมะเร็งก่อตัวเป็นก้อน มันต้อง “สร้างเส้นเลือดใหม่” เพื่อเอาเลือดมาหล่อเลี้ยงตัวเอง กระบวนการนี้เรียกว่า Angiogenesis
เซซามินสามารถ “ยับยั้งการสร้างเส้นเลือดใหม่” ได้ โดยการลดการทำงานของสาร VEGF (Vascular Endothelial Growth Factor) เมื่อไม่มีเลือดไปเลี้ยง มะเร็งจะเจริญเติบโตไม่ได้ และฝ่อตายในที่สุด