ซอฟท์เจลคืออะไร

        ซอฟเจล (Softgel)คือหนึ่งในรูปแบบการผลิตยาและผลิตภัณฑ์เสริมอาหารที่ได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อย ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในอุตสาหกรรมยาและสุขภาพ ซอฟเจลมีลักษณะเป็นแคปซูลที่ทำจากเจลาตินแบบอ่อนหรือเจลาตินชนิดพิเศษ ซึ่งถูกออกแบบให้บรรจุของเหลว เช่น น้ำมันหรือสารสกัดต่าง ๆ ภายในแคปซูลนั้น ๆ ส่วนประกอบของแคปซูลซอฟเจลทำจากเจลาติน กลีเซอรอล และน้ำ ซึ่งทำให้แคปซูลนั้นมีความยืดหยุ่นและแตกตัวง่ายในระบบทางเดินอาหาร

        คุณสมบัติของซอฟเจลที่สำคัญ คือสามารถบรรจุสารอาหารหรือยาที่มีสภาพเป็นของเหลว หรือของแข็งกึ่งของเหลวที่ละลายในน้ำมัน ซึ่งต่างจากแคปซูลแบบแข็งที่มักบรรจุสารในรูปผงหรือแกรนูล การที่ซอฟเจลใช้สำหรับบรรจุของเหลวนี้ทำให้เหมาะสมกับสารอาหารหรือยาที่มีปัญหาการละลายหรือการดูดซึม เช่น น้ำมันปลา น้ำมันมะพร้าว หรือสารสกัดจากพืชที่ละลายในน้ำมัน เนื่องจากระบบร่างกายสามารถดูดซึมของเหลวได้เร็วกว่าสารที่เป็นผงหรือเม็ด ทำให้สารที่บรรจุในซอฟเจลถูกดูดซึมเข้าสู่ร่างกายอย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพมากขึ้น

จุดเด่นของซอฟเจล

แคปซูลแบบซอฟเจล (Softgel Capsules) เป็นทางเลือกที่ได้รับความนิยมอย่างมากในการบรรจุอาหารเสริม โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกลุ่มผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนประกอบเป็นน้ำมันหรือสารสกัดที่เป็นของเหลว ข้อดีของแคปซูลซอฟเจลนั้นมีความหลากหลายและครอบคลุมหลายด้าน ทั้งในแง่ของคุณภาพการจัดเก็บ การบริโภค และประสิทธิภาพของผลิตภัณฑ์เมื่อเข้าสู่ร่างกาย

  1. การดูดซึมที่มีประสิทธิภาพสูง
    ซอฟเจลมีความสามารถในการช่วยให้ร่างกายดูดซึมสารอาหารได้อย่างมีประสิทธิภาพ เนื่องจากซอฟเจลประกอบด้วยแคปซูลเจลาตินที่บรรจุของเหลวไว้ภายใน สารที่เป็นของเหลวจะถูกดูดซึมเข้าสู่ร่างกายได้เร็วกว่ารูปแบบของเม็ดหรือผง ซึ่งมักต้องใช้เวลาในการแตกตัวและละลายก่อนเข้าสู่กระแสเลือด การดูดซึมที่รวดเร็วนี้เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการประสิทธิผลในเวลาสั้น หรือสำหรับสารอาหารที่ต้องการการดูดซึมที่ดีในระบบย่อยอาหาร อีกทั้งยังถูกออกแบบให้มีการปลดปล่อยสารอาหารในช่วงเวลาที่กำหนด ทำให้สามารถควบคุมการดูดซึมได้ตามความต้องการ ช่วยให้สารอาหารออกฤทธิ์ได้นานขึ้นในร่างกาย หรือการปลดปล่อยเฉพาะในบริเวณที่เหมาะสม เช่น ลำไส้เล็ก ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของอาหารเสริมได้อย่างมาก

  2. ป้องกันกลิ่นและรสชาติของสารภายใน
    หนึ่งในปัญหาของการทานอาหารเสริมบางประเภท เช่น น้ำมันปลา น้ำมันตับปลาหรือสมุนไพรบางชนิด มักจะมีกลิ่นและรสชาติที่อาจทำให้รู้สึกไม่สบาย ซอฟเจลสามารถช่วยแก้ปัญหานี้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ เนื่องจากแคปซูลเจลาตินทำหน้าที่เป็นเกราะป้องกันรสชาติและกลิ่นจากสารภายใน ทำให้ผู้บริโภคไม่ต้องทนกับความไม่สะดวกที่เกิดจากการบริโภคแบบปกติ นอกจากนี้การปกปิดกลิ่นยังช่วยให้ผลิตภัณฑ์มีคุณภาพดีขึ้นโดยที่ไม่จำเป็นต้องใส่สารเติมแต่งเพื่อปกปิดกลิ่นโดยตรง

  3. สะดวกต่อการบริโภค
    หนึ่งในข้อดีสำคัญของซอฟเจลคือความสะดวกในการบริโภค เนื่องจากซอฟเจลเป็นรูปแบบที่มีลักษณะผิวเนียน นุ่มและลื่น ทำให้ง่ายต่อการกลืน แม้จะมีขนาดค่อนข้างใหญ่กว่าแคปซูลชนิดอื่นๆ ซึ่งเป็นจุดเด่นที่แตกต่างจากยาเม็ดหรือแคปซูลแบบแข็ง นอกจากนี้ซอฟเจลยังไม่มีกลิ่นหรือรสที่รบกวน จึงเหมาะสำหรับคนที่มีปัญหาการกลืนยา เช่น เด็ก ผู้สูงอายุ หรือผู้ที่มีปัญหาสุขภาพ การทานซอฟเจลจะเป็นเรื่องง่ายและไม่ต้องทนความอึดอัดเหมือนกับยาเม็ดหรือแคปซูลทั่วไป

  4. ปกป้องสารอาหารภายใน จากความชื้น แสงและอากาศ
    ซอฟเจลมักผลิตด้วยการปิดผนึกอย่างมิดชิด ทำให้สามารถปกป้องส่วนประกอบสำคัญภายใน เช่น วิตามิน น้ำมันโอเมก้า-3 หรือสารสกัดที่มีคุณสมบัติไวต่อแสงและอากาศ เช่น สารต้านอนุมูลอิสระจากการถูกออกซิไดซ์หรือเสื่อมสภาพจากปัจจัยภายนอก เช่น ความชื้น แสง และอากาศ ทำให้สารอาหารภายในไม่สัมผัสกับแสงแดดหรืออากาศ จึงช่วยรักษาคุณภาพและความสดใหม่ของสารสำคัญในผลิตภัณฑ์ ทำให้สามารถคงประสิทธิภาพสูงสุดตั้งแต่วันแรกที่บริโภคจนถึงวันสุดท้ายของอายุผลิตภัณฑ์ นอกจากนี้ ยังป้องกันไม่ให้เกิดปฏิกิริยาทางเคมีที่ไม่พึงประสงค์กับสารอื่นๆ ภายนอก ทำให้ซอฟเจลเหมาะสำหรับสารอาหารหรือยาที่ไวต่อสภาพแวดล้อม

  5. บรรจุสารหลากหลายประเภทได้
    จุดเด่นของซอฟเจลอีกประการหนึ่งคือความยืดหยุ่นในการบรรจุสารได้หลากหลาย ทั้งสารที่เป็นน้ำมัน สารสกัดจากพืช หรือวิตามินต่างๆ โดยเฉพาะสารที่ไม่สามารถบรรจุในแคปซูลแข็งหรือเม็ดได้ ซอฟเจลสามารถบรรจุได้แม้กระทั่งสารที่มีความคงตัวต่ำหรือมีลักษณะเป็นของเหลวที่ยากต่อการจัดเก็บในรูปแบบอื่นๆ จึงช่วยรักษาความเข้มข้นและความบริสุทธิ์ของสารอาหาร นอกจากนี้ยังสามารถบรรจุสารอาหารได้ในปริมาณที่เหมาะสมและสม่ำเสมอ ทำให้ลูกค้าได้รับปริมาณที่แน่นอนในการบริโภคแต่ละครั้ง จึงทำให้ซอฟเจลเป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับการบรรจุผลิตภัณฑ์เสริมอาหารหลายประเภท

  6. ลดการระคายเคืองในกระเพาะอาหาร
    ซอฟเจลสามารถช่วยลดปัญหาการระคายเคืองในระบบทางเดินอาหารได้ เนื่องจากอาหารเสริมในรูปแบบอื่นมักมีการใช้สารเจือปน เช่น สารช่วยในการแตกตัว สารเพิ่มปริมาณ หรือสารเคลือบผิว ในขณะที่ซอฟเจลมีส่วนประกอบที่น้อยกว่า และเนื่องจากซอฟเจลมีการปลดปล่อยสารอย่างค่อยเป็นค่อยไปในกระเพาะอาหาร ทำให้ไม่เกิดการระคายเคืองต่อกระเพาะอาหารเหมือนกับยาบางประเภทที่เป็นผงหรือเม็ด ซึ่งทำให้เหมาะสำหรับผู้ที่แพ้ง่ายต่อสารเจือปนต่างๆ

  7. ควบคุมมาตรฐานและคุณภาพได้ดี
    การผลิตซอฟเจลต้องผ่านกระบวนการผลิตที่ควบคุมอย่างเข้มงวด ซึ่งรวมถึงการตรวจสอบความคงทน ความปลอดภัย และคุณภาพของผลิตภัณฑ์ การใช้เทคโนโลยีขั้นสูงในการผลิตซอฟเจลทำให้สามารถตรวจสอบและควบคุมปริมาณสารที่อยู่ในแคปซูลได้อย่างแม่นยำ ส่งผลให้ผู้บริโภคได้รับสารอาหารหรือยาตามปริมาณที่ต้องการอย่างแน่นอน

  8. อายุการเก็บรักษาที่ยาวนานกว่า
    ด้วยกระบวนการผลิตซอฟเจลที่เน้นการปิดผนึกอย่างมิดชิด และการปกป้องจากแสงและอากาศ ทำให้ซอฟเจลมีอายุการเก็บรักษายาวนานกว่าอาหารเสริมในรูปแบบอื่น การที่สารอาหารภายในไม่เสื่อมสภาพหรือสูญเสียคุณค่าไปง่ายๆ นับว่าเป็นข้อได้เปรียบสำคัญสำหรับผู้ผลิตและผู้บริโภค


ส่วนประกอบของเปลือกแคปซูลนิ่มส่วนประกอบของเปลือกแคปซูลนิ่ม

        เปลือกแคปซูลซอฟเจล (Softgel Capsule) ประกอบขึ้นจากสารที่มีคุณสมบัติยืดหยุ่นและโปร่งใส เพื่อให้สามารถบรรจุของเหลวได้ โดยส่วนประกอบหลักที่ใช้ในการทำเปลือกแคปซูลซอฟเจล ได้แก่


  1. เจลาติน (Gelatin)
    เป็นส่วนประกอบหลักของเปลือกซอฟเจล เจลาตินทำมาจากการสกัดโปรตีนที่ได้จากกระดูกหรือหนังสัตว์ โดยมีกระบวนการสกัดเพื่อให้ได้เจลาตินที่มีคุณภาพสูง มีคุณสมบัติยืดหยุ่นและละลายได้ง่ายในระบบย่อยอาหาร เจลาตินเป็นส่วนสำคัญในการสร้างเปลือกซอฟเจลที่มีความแข็งแรงและโปร่งแสง

  2. กลีเซอรอล (Glycerol)
    ทำหน้าที่เป็นสารให้ความชุ่มชื้นและความยืดหยุ่นในเปลือกแคปซูล เพื่อป้องกันไม่ให้เปลือกแห้งและแตก กลีเซอรอลทำให้แคปซูลซอฟเจลสามารถคงรูปทรงอยู่ได้เป็นเวลานานและยังคงมีความยืดหยุ่นสูง

  3. น้ำ (Water)
    น้ำเป็นส่วนประกอบสำคัญในการละลายเจลาตินและผสมกับส่วนประกอบอื่น ๆ เพื่อสร้างเนื้อสัมผัสที่เหมาะสมสำหรับเปลือกแคปซูลซอฟเจล ปริมาณน้ำในแคปซูลซอฟเจลมีบทบาทสำคัญต่อความยืดหยุ่นและความเหนียวของแคปซูล

  4. สารแต่งสี (Colorants)
    เพื่อให้แคปซูลมีสีสันตามที่ต้องการ อาจมีการใส่สีเพื่อให้แคปซูลมีรูปลักษณ์ที่สวยงามและดูน่าสนใจ สีที่ใช้สามารถมาจากสีธรรมชาติหรือสังเคราะห์ ขึ้นอยู่กับข้อกำหนดในการผลิต

  5. สารกันเสีย (Preservatives)
    เพื่อป้องกันการเจริญเติบโตของจุลินทรีย์หรือเชื้อแบคทีเรียที่อาจเกิดขึ้นในซอฟเจลระหว่างกระบวนการผลิตหรือการจัดเก็บ สารกันเสียช่วยยืดอายุการใช้งานและรักษาคุณภาพของผลิตภัณฑ์

  6. สารแต่งกลิ่นและรส (Flavoring Agents)
    ในบางกรณี แคปซูลซอฟเจลอาจมีการแต่งกลิ่นหรือรสเพื่อปกปิดกลิ่นหรือรสชาติที่ไม่พึงประสงค์ของสารออกฤทธิ์ที่บรรจุอยู่ภายใน

  7. สารช่วยในการละลาย (Plasticizers)
    ใช้เพื่อเพิ่มความยืดหยุ่นของเปลือกแคปซูล สารเหล่านี้ช่วยลดการแตกหรือหักของแคปซูลในระหว่างการผลิตหรือการขนส่ง ทำให้ผลิตภัณฑ์มีความคงทนมากขึ้น


Placeholder image